เอกสารการที่น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ ขออนุญาตก่อสร้างโกดังพลุ ในตำบลมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กับอบต.มูโนะ
ในเอกสารระบุว่าเป็นการก่อสร้างอาคารโครงสร้างเหล็กชั้นเดียว จำนวน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นที่ประกอบกิจการ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่ากิจการอะไร พื้นที่ทั้งหมด 450 ตารางเมตรและอีกจุดที่มีการตั้งข้อสังเกตก็คือ มีการอนุญาตก่อสร้างเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ซึ่งทางอบต.มีกำหนดให้แล้วเสร็จวันที่ 15 มี.ค.2567 แต่ในความเป็นจริงก็คือโกดังดังกล่าวสร้างเสร็จก่อน โดยใช้เวลาก่อสร้างเพียง 4 เดือน แล้วก็เกิดระเบิดขึ้น
แฉ! "ส่วยมูโนะ" มีมานาน เรียกเก็บสินค้าทุกชนิด
"อัจฉริยะ" แฉ! เส้นทาง "ส่วยมูโนะ"
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ด.ต.รุสลาม อาแว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ บอกว่า โกดังแห่งนี้มีการขออนุญาตก่อสร้างกับทาง อบต.โดยมีกำหนดระยะเวลา 1 ปี แต่สร้างเสร็จก่อน และไม่ได้แจ้งให้ทาง อบต.ทราบ จึงยังไม่ได้เข้าตรวจสอบ
ส่วนประเด็นที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม อบต.ถึงไม่รู้ว่าในโกดังเก็บสินค้าอะไร ทางนายก อบต.บอกว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าของไม่ได้แจ้งว่าเก็บสินค้าอะไร แต่ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ นางสาวปิยะนุช มีการขอยื่นจดทะเบียนการค้าในตลาดมูโนะ ว่าขายสินค้าเกษตรและเบ็ดเตล็ด ก็ทำให้เข้าใจกันว่าคงจะเก็บสินค้าสำหรับค้าขาย ส่วนการลักลอบเก็บพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟนั้น ทาง อบต.ยืนยันว่าไม่ทราบ และไม่มีอำนาจในการอนุญาต หรือ ตรวจสอบเรื่องนี้
ข้อมูลของ อบต.มูโนะ จะให้เห็นว่า อาคารแห่งนี้เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จไม่นาน ถ้านับจากวันที่อนุญาต จนถึงวันที่เกิดระเบิดเป็นเวลาประมาณ 5 เดือนเท่านั้น และยังไม่ทันมีการตรวจสอบว่าอาคารหลังนี้ ก่อสร้างถูกต้องตามแบบแปลนหรือไม่ ก็เกิดระเบิดเสียก่อน
นอกจากโกดังที่ระเบิดแล้ว ยังพบว่าเฉพาะในพื้นที่ ต.มูโนะ มีอาคารพาณิชย์อีก 2 แห่งที่มีชื่อของ นางปิยะนุช และนายสมปอง เป็นเจ้าของ ก็คือ อาคารพาณิชย์ ที่เปิดเป็นหน้าร้านขายสินค้าในตลาดมูโนะ ด้านหลังมีโกดังเก็บสินค้า อยู่ริมแม่น้ำ
และอีกแห่งเป็นอาคารพาณิชย์ ฝั่งตรงข้ามกับร้านค้า ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอาคารแต่ละแห่ง ก็ยังพบพลุและดอกไม้ไฟอีกจำนวนมาก ปริมาณพลุที่คาดคะเนว่าถูกนำเข้ามาเก็บพักไว้ไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ตัน สะท้อนให้เห็นว่าเจ้าของโกดังรายนี้ ไม่ใช่ผู้ค้าธรรมดา
ด้าน นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้ข้อมูลกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า พื้นที่ ต.มูโน อยู่ติดกับมาเลเซีย มีแม่น้ำโก-ลก กั้นห่างเพียงไม่กี่เมตร จึงเป็นตลาดชายแดนสำคัญ
สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือการค้าขายสีเทาๆ ทั้งเรื่องสินค้าหนีภาษี ไปจนถึงการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดนจนกลายเป็นทำเลทองของคนหลายกลุ่มที่เข้ามาเก็บส่วยจากธุรกิจสีเทาเป็นมูลค่ามหาศาล
นายรอมฎอน บอกว่า สินค้าเทาๆ ที่ว่านี้มีอยู่ 2 แบบก็คือ สินค้าเทาขาว เป็นสินค้าอุปโภค บริโภค หรือ ของหนีภาษี เช่น พวกขนม นม เนย น้ำมันพืช และอีกประเภทคือสินค้าเทาดำ เป็นพวกของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด หรือ อาวุธต่างๆคำพูดจาก สล็อตวอเลท
แต่อีกประเด็นที่ นายรอมฎอน ตั้งข้อสังเกตก็คือพื้นที่ ต.มูโนะ อยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ที่เจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างเต็มที่ในการเข้าบุกค้น หรือ ตรวจจับ แต่กลับมีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมรุนแรงขึ้น โดยที่ไม่มีใครรู้เห็น เป็นไปได้หรือไม่
และที่สำคัญเชื่อว่า “ส่วยมูโน” เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ มีทั้งหน่วยงานรัฐ ข้าราชการ ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ เข้ามามีอิทธิพลในการตักตวงผลประโยชน์ หลังจากเกิดระเบิดใหญ่ครั้งนี้ จะเป็นบทเรียนในการหาแนวทางแก้ปัญหาในพื้นที่มูโนะ.